จากกรณี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Jakchai Banyensakul ได้ออกมาเผยภาพสาวรายหนึ่งซึ่งนอนหมดสติในป่าข้างทาง โดยผู้โพสได้ระบุว่า
#รีรัน #เตือนภัย #สาวเที่ยวผับจนงงมาฟื้นในป่าถูกกินตับเหลือไว้เพียงถุงยาง 7/7/60 พบหญิงสาวนอนหมดสติอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น จนหญิงสาวได้สติ จึงให้การกับตำรวจว่าเมื่อคืนเมาจนไม่ได้สติจนชายหนุ่มล่อลวงมากินตับโดยรู้จักกันที่ผับและได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้เป็นถุงยางที่ใช้งานแล้วซึ่งมีคราบอสุจิติดอยู่ภายใน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนหญิงสาวเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้ติดตามชายหนุ่มรายนี้มาดำเนินคดีกันต่อไป.

แต่ล่าสุดทางด้านของสาวรายนี้ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ได้นำภาพของเธอไปโพสทำให้เสียหาย เนื่องจากถูกกระแสสังคมโจมตีด่าทอเป็นจำนวนมาก โดยเธอได้ออกมาเล่าความจริง เรื่องราวที่เกิดขึ้นเอาไว้ว่าดังนี้..

น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) เล่าว่า ปัจจุบันตนเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีสถาบันแห่งหนึ่ง และได้ทำงานพาร์ตไทม์เป็นพนักงานเสิร์ฟเหล้าที่ร้านจำหน่ายเหล้าแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดอุบลฯ และตนเป็นคนชอบดื่มเหล้า เวลาทำงานก็ดื่มเหล้ากับแขกที่ชักชวนเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย
สำหรับวันที่พบตนไปนอนในพงหญ้าคือเช้าวันที่ 5ก.ค. โดยช่วงเย็นก่อนหน้านั้นตนไปทำงานตามปกติ หลังร้านเหล้าปิดประมาณเที่ยงคืนเพื่อนหญิงที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ได้ชักชวนไปดื่มต่อที่หอพักของเพื่อนชายแถวถนนสรรพสิทธิ์ และมีเพื่อนของแฟนที่เป็นผู้ชายมาดื่มด้วย 5-6 คน โดยตนดื่มสุราขาวหมดไปประมาณ 1 ขวดก็รู้สึกเมานอนอยู่ข้างวง
กระทั่งเวลาประมาณตี 4 เศษ เพื่อนหญิงที่ทำงานอยู่ด้วยกันได้ปลุกให้ลุกขึ้นเพราะจะพากันกลับแล้ว โดยมีผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันในวงอาสาพาไปส่งหอพักแถวถนนชยางกูร ห่างไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร และมารู้ภายหลังระหว่างทางตนมีปากเสียงกับชายที่จะมาส่ง ชายคนดังกล่าวจึงหยุดรถ ก่อนไล่ให้ตนเดินกลับหอพักไปเอง

หลังจากนั้นก็ไม่ทราบไปนอนอยู่ตรงพงหญ้าข้างถนนในซอยธรรมวิถี 4.1 ห่างจากหอพักของตนไปประมาณ 2 กิโลเมตรได้อย่างไร และบอกไม่ได้ว่าตนถูกร่วมเพศตามที่มีการโพสต์ข้อความหรือไม่ เพราะตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยมาปลุกให้ตื่น ยังคงสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ใส่ไปทำงาน และยังใส่เสื้อตามปกติ กางเกงชั้นในก็ไม่มีร่องรอยถูกถอดออกแต่อย่างใด และตนไม่เห็นมีถุงยางอนามัยอยู่ในบริเวณนั้น
หลังเจ้าหน้าที่มาปลุกให้ตื่นก็นำตนไปส่งยังหอพักและนอนพักทั้งวันเพราะรู้สึกปวดหัว เมื่อมาทำงานในวันถัดมาก็ได้สอบถามเรื่องราวจากเพื่อนที่ทำงานอยู่ด้วยกันว่าตนไปนอนอยู่ในพงหญ้าข้างถนนได้อย่างไร ซึ่งเพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าตนมีเรื่องทะเลาะกับชายที่ไปส่งจนถูกไล่ลงจากรถ ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจอะไร จนกระทั่งมีการโพสต์ภาพตนนอนหลับอยู่ในพงหญ้า และอ้างพบถุงยางอนามัยด้วย
“ดิฉันไม่ยืนยันถูกร่วมเพศหรือไม่ แต่การมาแสดงความเห็นของชาวเน็ตที่ไม่ทราบความจริงทำให้ดิฉันได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความให้หยุดการแชร์และแสดงความเห็นที่ไม่เป็นจริง เพราะหากไม่หยุดก็จะใช้สิทธิเอาเรื่องตามกฎหมาย” น.ส.น้ำกล่าว
หลังได้รับแจ้งความ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้พา น.ส.น้ำไปดูจุดที่นอนอยู่ในพงหญ้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหลังตลาดนิกรธานี ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาอุบลราชธานี และพบห่อใส่ถุงยางอนามัยและถุงยางฯ ใช้แล้วทิ้งไว้ในพงหญ้า จึงเก็บส่งไปตรวจพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นถุงยางฯ ที่ใช้ร่วมเพศกับ น.ส.น้ำหรือไม่ เพราะเป็นพื้นที่รกร้างมีการก่อสร้างอาคารอยู่ในบริเวณนั้นด้วย