เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานว่า เจสสิก้า คอลลินส์ หญิงสาววัย 27 ปี และเป็นคุณแม่ลูก 6 จากเมืองอามาริลโล รัฐเทกซัส สหรัฐฯ ได้ออกมาเผยประสบการณ์และอุทาหรณ์สุดระทึก หลังจากถูกทำร้ายร่างกายที่บริเวณด้านนอกบ้าน เมื่อคืนวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังลงจากรถ กำลังจะเอื้อมตัวไปหยิบสายชาร์จแบตในรถ อยู่ ๆ ก็มีคนร้ายซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหน เข้ามาต่อยที่ใบหน้าอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บมีเลือดไหลเต็มจมูกและปาก นาทีนั้นโชคดีที่เจสสิก้ากำกุญแจรถอยู่ในลักษณะที่มีส่วนปลายของกุญแจยื่นออกมาระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง ทำให้เธอกำหมัดชกไปที่คนร้าย ส่งปลายกุญแจให้แทงเข้าไปยังคอของอีกฝ่าย จนคนร้ายวิ่งหนีไปพร้อมกับบาดแผล จากนั้นเธอจึงรีบวิ่งหนีไปอีกทาง แล้วจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายรายดังกล่าวน่าจะเป็นโจรขโมยรถที่แอบซุ่มดูอยู่ก่อนจะสบโอกาสเข้ามาทำร้ายเหยื่อ เพื่อขโมยรถแต่ทำไม่สำเร็จ อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเลือดของคนร้ายที่ติดอยู่ที่บริเวณกุญแจรถของเหยื่อสาวไปตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อทำการระบุตัวคนร้ายแล้ว

เจสสิก้าได้นำเรื่องราวประสบการณ์ดังกล่าวมาโพสต์แชร์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ พร้อมทั้งแนะนำสอนวิธีการ โดยบอกให้กำหมัดแล้วหนีบกุญแจไว้ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางเพื่อใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่ แม้กระทั่งอยู่ใกล้ ๆ บ้านก็ยังไม่ปลอดภัย
หลังจากนั้นโพสต์อุทาหรณ์เตือนภัยของเจสสิก้าก็ถูกแชร์ต่อกันไปมากกว่า 1 แสนครั้ง ซึ่งภายหลังเจสสิก้าเองก็ได้ออกมาขอบคุณที่ช่วยกันแชร์ พร้อมทั้งอยากย้ำเตือนให้สาว ๆ ตระหนักถึงความอันตราย อย่ารอให้สายเกินแก้